ปัจจุบันรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีใช้อยู่จะมี 2 บริษัทเอกชนที่ทำการประกอบการเดินรถแทนภาครัฐ
1.
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BTS หรือ (บนดิน ที่เรียกกัน รถไฟฟ้าBTS)
โดยรับสัมปทานการให้บริการเดินรถเมื่อ 5 ธันวาคม 2542 ซึ่งมีอายุสัมปทานเป็นระยะเวลา 30 ปี จะหมดสัญญาในปี พ.ศ.2572
แต่ได้มีการต่อสัญญาไปอีก 13 ปี เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา

ทำให้สิ้นสุดสัญญาในปี 2585
2.
บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ โดยมีกลุ่มบริษัท ช. การช่าง เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
BMCL หรือ (ใต้ดิน ที่เรียกกัน รถไฟฟ้าMRT)
โดยรับสัมปทานการให้บริการเดินรถเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543 ซึ่งมีอายุสัมปทานเป็นระยะเวลา 25 ปี และจะหมดประมาณปี 2568
หลายคนอาจสงสัย รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนคืออะไร
คือ รถไฟฟ้าภายในเมืองนั่นเอง ซึ่งยังไม่รวมไปถึงรถไฟฟ้าข้ามภมิภาคที่เป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่กำลังจะเกิด ไปยังภาค เหนือ-ใต้-ออก-ตก ของประเทศ
เรื่องมันอยู่ที่ว่ารัฐบาลไม่ได้มีนโยบายที่จะเอาสัมปทานกลับคืนสู่ประชาชนหรือภาครัฐ เมื่อสัมปทานหมด ไม่ว่ารัฐบาลยุคไหน ไม่มีใครคิด หรือคิดแต่ก็ไม่กล้าทำ เพราะว่าอะไร ก็เพราะผลประโยชน์จากเอกชนที่ให้มอบกับบรรดานักการเมืองที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ (อันนี้พูดแบบง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ) เห็นได้จากการต่อสัมปทานของ BTS เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมาอีก 13 ปี
ซึ่งจะเห็นได้ว่า
1.ค่ารถไฟฟ้าก็จะปรับขึ้นอยู่ตลอด ไม่มีทางที่จะลดได้
2.คนขึ้นรถไฟฟ้าเยอะมากขึ้น ผลกำไรที่เอกชนได้ก็ต้องมากขึ้น แต่ความสะดวกสบายที่ประชาชนได้รับกลับน้อยลง ต้องเบียดเสียดกันในช่วงเวลาไป-กลับทำงาน เพราะเอกชนไม่เพิ่มขบวนรถไฟ
3.อื่นๆอีกมากมาย
สุดท้ายประชาชนไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลยจากเอกชน กับผลกระทบต่างๆ ที่จะทวีคูณขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่เห็นผลมาก เพราะมีแค่ 2 โครงการที่เปิดใช้อยู่ คือ บนดิน (BTS) กับ ใต้ดิน (BMCL)
และในอีก 10 ปีข้างหน้าต่อไป ก็จะมีโครงการต่างๆสร้างขึ้นมา จนเป็นระบบขนส่งมวลชนอย่างสมบูรณ์
ตามโครงข่ายด้านล่างตามรูป
แล้วถ้า 10 อีกปีข้างหน้าที่รถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์ทุกสายทุกเส้นทาง รวมมากกว่า 10 เส้นทางในกรุงเทพฯ และถ้ามีผู้รับสัมปทานเป็นเจ้าเดิม (หรือผูกขาดในการรับรับสัมปทาน)
พวกท่านคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันคงไม่ใช่สิ่งที่ดีกับประชาชนแน่ แต่จะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนที่ได้ผลประโยชน์
แต่ถ้าบอกว่าให้มีการประมูลแข่งขันหลายๆบริษัท เชื่อว่าอาจจะมี แต่บริษัทที่ได้ก็จะเป็นบริษัทเดิมๆที่รับสัมปทานในปัจจุบันอยู่แล้ว
ซึ่งประชาชนเล็กๆอย่างพวกเราควรตระหนักเรื่องนี้แต่วันนี้ ไม่ใช่รอให้ถึง 10 ปี เอกชน(เจ้าเดียวหรือสองเจ้า)เอาสัมปทานไปหมด เราถึงมองออก
ซึ่งมันก็สายไปแล้ว
จึงอยากให้ทุกคนเป็นพลังช่วยกันไม่ให้มันเกิดขึ้น และแชร์ให้ประชาชนที่ไม่รู้ ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับโครงการรถไฟฟ้าไทยบ้านเรา(คือจะมีการล็อคสัมปทาน ขอพูดแบบง่ายๆ)
อยากช่วยกันเพื่อให้ผลักดันรัฐบาลไม่ให้ต่อสัมปทานให้กับเอกชนที่ดำเนินการอยู่เดิมในอนาคตและ โครงการที่จะเกิดขึ้นภายในอนาคตให้คิดที่จะดำเนินการประกอบการเดินรถโดยภาครัฐเองให้ประชาชนได้ ซึ่งงบในการทำให้เกิดขึ้นได้คงไม่มากเท่ากับเงินที่เสียให้กับพวกที่ได้รับผลประโชชน์หรือเอกชนพวกนั้น ดังจะเห็นได้จาก สาธรนูปโภคอื่นๆของรัฐ เช่น น้ำ ไฟ เป็นต้น ที่ไม่ให้เอกชนเข้ามามีผลประโยชน์ (ซึ่งไม่หวังผลกำไร เท่ากับเอกชนดูแลแน่นอน)
หลายท่านอาจจะคิดว่าคงไม่มีผลอะไรมาก ถึงเอกชนจะรับสัมปทานทั้งหมด
แต่ถ้ามองถึงเงินที่ใช้ในการลงทุนแต่ละโครงการ ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้าน/โครงการ (จากรูปมีกี่โครงการก็คูณไป)
รวมทั้งหมดคือเงินมหาศาลจำนวนมาก ที่สุดท้ายแล้ว...เอกชนที่ได้รับผลประโยชน์ ไม่ใช่ประชาชนอย่างเราเลย
อยากจะให้เพจต่างๆที่ประชาชนติดตามเยอะๆช่วย แชร์หรือช่วยคิดในเรื่องนี้ด้วย เพราะถ้าเราไม่ช่วยกัน คงไม่มีใครมาช่วยได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า
สุดท้ายจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่คิดว่ารัฐควรที่จะเป็นผู้ดำเนินประอบการเดินรถไฟฟ้าด้วยรัฐเอง จึงเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่สุด
โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเมืองอีก 10 ปี ข้างหน้าที่มีเอกชนรับสัมปทานผูกขาด
1.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BTS หรือ (บนดิน ที่เรียกกัน รถไฟฟ้าBTS)
โดยรับสัมปทานการให้บริการเดินรถเมื่อ 5 ธันวาคม 2542 ซึ่งมีอายุสัมปทานเป็นระยะเวลา 30 ปี จะหมดสัญญาในปี พ.ศ.2572
แต่ได้มีการต่อสัญญาไปอีก 13 ปี เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา
2.บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ โดยมีกลุ่มบริษัท ช. การช่าง เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ BMCL หรือ (ใต้ดิน ที่เรียกกัน รถไฟฟ้าMRT)
โดยรับสัมปทานการให้บริการเดินรถเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543 ซึ่งมีอายุสัมปทานเป็นระยะเวลา 25 ปี และจะหมดประมาณปี 2568
หลายคนอาจสงสัย รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนคืออะไร
คือ รถไฟฟ้าภายในเมืองนั่นเอง ซึ่งยังไม่รวมไปถึงรถไฟฟ้าข้ามภมิภาคที่เป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่กำลังจะเกิด ไปยังภาค เหนือ-ใต้-ออก-ตก ของประเทศ
เรื่องมันอยู่ที่ว่ารัฐบาลไม่ได้มีนโยบายที่จะเอาสัมปทานกลับคืนสู่ประชาชนหรือภาครัฐ เมื่อสัมปทานหมด ไม่ว่ารัฐบาลยุคไหน ไม่มีใครคิด หรือคิดแต่ก็ไม่กล้าทำ เพราะว่าอะไร ก็เพราะผลประโยชน์จากเอกชนที่ให้มอบกับบรรดานักการเมืองที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ (อันนี้พูดแบบง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ) เห็นได้จากการต่อสัมปทานของ BTS เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมาอีก 13 ปี
ซึ่งจะเห็นได้ว่า
1.ค่ารถไฟฟ้าก็จะปรับขึ้นอยู่ตลอด ไม่มีทางที่จะลดได้
2.คนขึ้นรถไฟฟ้าเยอะมากขึ้น ผลกำไรที่เอกชนได้ก็ต้องมากขึ้น แต่ความสะดวกสบายที่ประชาชนได้รับกลับน้อยลง ต้องเบียดเสียดกันในช่วงเวลาไป-กลับทำงาน เพราะเอกชนไม่เพิ่มขบวนรถไฟ
3.อื่นๆอีกมากมาย
สุดท้ายประชาชนไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลยจากเอกชน กับผลกระทบต่างๆ ที่จะทวีคูณขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่เห็นผลมาก เพราะมีแค่ 2 โครงการที่เปิดใช้อยู่ คือ บนดิน (BTS) กับ ใต้ดิน (BMCL)
และในอีก 10 ปีข้างหน้าต่อไป ก็จะมีโครงการต่างๆสร้างขึ้นมา จนเป็นระบบขนส่งมวลชนอย่างสมบูรณ์
ตามโครงข่ายด้านล่างตามรูป
แล้วถ้า 10 อีกปีข้างหน้าที่รถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์ทุกสายทุกเส้นทาง รวมมากกว่า 10 เส้นทางในกรุงเทพฯ และถ้ามีผู้รับสัมปทานเป็นเจ้าเดิม (หรือผูกขาดในการรับรับสัมปทาน)
พวกท่านคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันคงไม่ใช่สิ่งที่ดีกับประชาชนแน่ แต่จะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนที่ได้ผลประโยชน์
แต่ถ้าบอกว่าให้มีการประมูลแข่งขันหลายๆบริษัท เชื่อว่าอาจจะมี แต่บริษัทที่ได้ก็จะเป็นบริษัทเดิมๆที่รับสัมปทานในปัจจุบันอยู่แล้ว
ซึ่งประชาชนเล็กๆอย่างพวกเราควรตระหนักเรื่องนี้แต่วันนี้ ไม่ใช่รอให้ถึง 10 ปี เอกชน(เจ้าเดียวหรือสองเจ้า)เอาสัมปทานไปหมด เราถึงมองออก
ซึ่งมันก็สายไปแล้ว
จึงอยากให้ทุกคนเป็นพลังช่วยกันไม่ให้มันเกิดขึ้น และแชร์ให้ประชาชนที่ไม่รู้ ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับโครงการรถไฟฟ้าไทยบ้านเรา(คือจะมีการล็อคสัมปทาน ขอพูดแบบง่ายๆ)
อยากช่วยกันเพื่อให้ผลักดันรัฐบาลไม่ให้ต่อสัมปทานให้กับเอกชนที่ดำเนินการอยู่เดิมในอนาคตและ โครงการที่จะเกิดขึ้นภายในอนาคตให้คิดที่จะดำเนินการประกอบการเดินรถโดยภาครัฐเองให้ประชาชนได้ ซึ่งงบในการทำให้เกิดขึ้นได้คงไม่มากเท่ากับเงินที่เสียให้กับพวกที่ได้รับผลประโชชน์หรือเอกชนพวกนั้น ดังจะเห็นได้จาก สาธรนูปโภคอื่นๆของรัฐ เช่น น้ำ ไฟ เป็นต้น ที่ไม่ให้เอกชนเข้ามามีผลประโยชน์ (ซึ่งไม่หวังผลกำไร เท่ากับเอกชนดูแลแน่นอน)
หลายท่านอาจจะคิดว่าคงไม่มีผลอะไรมาก ถึงเอกชนจะรับสัมปทานทั้งหมด
แต่ถ้ามองถึงเงินที่ใช้ในการลงทุนแต่ละโครงการ ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้าน/โครงการ (จากรูปมีกี่โครงการก็คูณไป)
รวมทั้งหมดคือเงินมหาศาลจำนวนมาก ที่สุดท้ายแล้ว...เอกชนที่ได้รับผลประโยชน์ ไม่ใช่ประชาชนอย่างเราเลย
อยากจะให้เพจต่างๆที่ประชาชนติดตามเยอะๆช่วย แชร์หรือช่วยคิดในเรื่องนี้ด้วย เพราะถ้าเราไม่ช่วยกัน คงไม่มีใครมาช่วยได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า
สุดท้ายจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่คิดว่ารัฐควรที่จะเป็นผู้ดำเนินประอบการเดินรถไฟฟ้าด้วยรัฐเอง จึงเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่สุด